top of page
Puricas23.png
  • facebook
  • line
  • instragram
  • Twiter
  • youtube

รอยแผลเป็นเก่า รอยแผลเป็นนานแล้ว ทําไงให้หาย ใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะจาง?

  • รูปภาพนักเขียน: puricas thailand
    puricas thailand
  • 25 เม.ย.
  • ยาว 1 นาที

ทำยังไงหายรอยแผลเป็นหาย

 

เคยไหม? มีรอยแผลเป็นนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากอุบัติเหตุต่างๆ หรือรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด แล้วสงสัยว่า "รอยแผลเป็นนานแล้ว ทําไงให้หาย?" หลายคนพยายามหาวิธีลบแผลเป็นเก่าแต่ก็ไม่เห็นผล บางคนใช้เวลาหลายเดือนแต่รอยก็ยังอยู่ บทความนี้ Puricas จะพาไปไขข้อข้องใจ พร้อมแนะนำแนวทางการรักษาแผลเป็นและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับรอยแผลเป็นเก่า เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนใสอีกครั้ง

รอยแผลเป็นใหม่ VS รอยแผลเป็นเก่า

รอยแผลเป็นใหม่ รอยแผลเป็นเก่า แตกต่างกันอย่างไร ดูแลด้วยวิธีไหนตามไปดูกัน

  1. รอยแผลเป็นใหม่ มักเป็นรอยที่เกิดไม่เกิน 3 เดือน ผิวยังมีศักยภาพในการฟื้นฟูตัวเองสูง หากรีบดูแลอย่างถูกวิธี เช่น ใช้ยาแผลเป็นหรือเจลทาแผลเป็นที่เหมาะสม จะช่วยลดการเกิดแผลเป็นถาวรได้ดี

  2. รอยแผลเป็นเก่า คือแผลที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายเดือนหรือหลายปี เช่น รอยแผลเป็นเก่าจากอุบัติเหตุ  รอยแผลผ่าตัดนาน ๆ หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลตั้งแต่ต้น โอกาสที่รอยจะฝังลึก ผิวไม่เรียบ หรือกลายเป็นแผลเป็นถาวรก็มีมาก การรักษาจึงต้องใช้เวลาและผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

แล้วรอยแผลเป็นนานแล้ว ทําไงให้หาย? คำตอบอยู่ที่การเข้าใจปัจจัยที่ทำให้แผลจางช้าหรือเร็ว และการเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสมที่สุด


รอยแผลเป็นใหม่ รอยแผลเป็นเก่า

5 ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการจางของแผลเป็น

  1. ประเภทของรอยแผลเป็น – แผลเป็นที่เป็นรอยนูนหรือคีลอยด์มักใช้เวลารักษานานกว่ารอยแผลแบนหรือรอยดำ

  2. ตำแหน่งของแผลเป็น – ผิวบริเวณใบหน้าและลำคอมักฟื้นตัวไวกว่าแขนหรือขา เพราะระบบไหลเวียนเลือดดีกว่า

  3. สภาพผิวของแต่ละบุคคล – ผิวคนเราฟื้นฟูไม่เท่ากัน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวแห้ง

  4. อายุของรอยแผลเป็น – แผลที่นานกว่า 6 เดือนจะใช้เวลาฟื้นฟูนานขึ้น เพราะเนื้อเยื่อเริ่มคงรูปแล้ว

  5. การเลือกใช้ยาแผลเป็น – หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมหรือคุณภาพต่ำ ก็อาจไม่เห็นผลเลย


วิธีลบแผลเป็นให้จางเร็วขึ้น

การรักษาแผลเป็นนานแล้วให้จางลงได้ จำเป็นต้องดูแลต่อเนื่องและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง เช่น:

  1. เลือกใช้เจลลดรอยแผลเป็นที่ผ่านการวิจัยทางการแพทย์ ตัวอย่างเช่น Puricas Plus Advanced Blood C&E Scar Gel เจลลดรอยแผลเป็น เพียวริก้าส์ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรอยแผลเป็นเก่า ด้วยส่วนผสมหลักจากดราก้อนบลัด (Dragon’s Blood) จากประเทศสเปน วิตามิน C&E และนวัตกรรม ScarZiro™ เอกสิทธิ์เฉพาะแบรนด์เพียวริก้าส์ ซึ่งช่วยผลักสารบำรุงเข้าสู่ผิวลึก ฟื้นฟูรอยแผลเป็นเก่าให้จางลงอย่างมีประสิทธิภาพ

  2. ทาเจลลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผล ควรทา Puricas Plus Advanced Blood C&E Scar Gel เช้า-เย็นเป็นประจำทุกวัน นวดเบา ๆ ให้ซึมลงผิว เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิตและเร่งกระบวนการฟื้นฟูแผลเป็น

  3. ป้องกันแผลจากแสงแดด แสงแดดสามารถทำให้รอยแผลเป็นคล้ำขึ้นได้ ควรทาครีมกันแดด SPF50+ เป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีรอยแผลเป็น

  4. เสริมการฟื้นฟูจากภายใน ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานกินอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น ปลา ไข่ ถั่ว และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง

  5. หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาแผลเดิม เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นใหม่และรอยเดิมลึกขึ้น

  6. อดทนและสม่ำเสมอ เพราะการรักษาแผลเป็นโดยเฉพาะแผลเป็นเก่า ต้องใช้เวลา ไม่ควรหยุดกลางคันหากยังไม่เห็นผล

    สรุป

    หากคุณมี รอยแผลเป็นเก่า รอยแผลเป็นนานแล้ว อย่าพึ่งหมดหวัง เพราะแม้จะไม่สามารถลบให้หาย 100% ได้ทันที แต่สามารถฟื้นฟูให้จางลงและผิวเรียบเนียนใกล้เคียงผิวเดิมได้ ด้วยการใช้ ยาแผลเป็นคุณภาพดี อย่าง Puricas Plus Advanced Blood C&E Scar Gel ร่วมกับการดูแลผิวอย่างถูกวิธี ทั้งจากภายนอกและภายใน ไม่ว่ารอยแผลเป็นจะเกิดมานานแค่ไหน หากมีวินัยในการดูแล และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงจุด โอกาสที่ผิวจะกลับมาเนียนสวยก็อยู่แค่เอื้อม

    อ้างอิง:




Puricas อันดับ 1 เวชสำอางจากสารสกัดดราก้อนบลัด (Dragon’s Blood Extract)

FOLLOW US

  • facebook
  • line
  • instragram
  • Twiter
  • youtube
Location-w.png
bottom of page