top of page
Puricas23.png
  • facebook
  • line
  • instragram
  • Twiter
  • youtube

การสมานแผล และการดูแลผิวจากรอยแดง รอยดำสิว บทความพิเศษ โดย ภญ.ณภัทร วชิรธนากร



ผิวหนังของคนเราประกอบด้วย 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (epidermis) เป็นชั้นที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากภาวะแวดล้อม และการสูญเสียน้ำ ชั้นต่อมาคือชั้นหนังแท้ (dermis) ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อมากมาย ให้ความแข็งแรงของชั้นผิวเป็นที่อยู่ของหลอดเลือดต่าง ๆ และชั้นที่อยู่ลึกสุดคือชั้นไขมัน (subcutaneous tissue) ช่วยให้ความอบอุ่นและป้องกันอันตรายให้กับร่างกาย


 

เมื่อกดแกะบีบสิวจะทำให้เกิดบาดแผลลึกถึงชั้นหนังแท้ โดยสังเกตได้จากมีเลือดออก โดยทั่วไปร่างกายก็จะจะกระตุ้นกลไกการหายของบาดแผล (wound healing) ตามธรรมชาติ ขั้นแรกคือการหยุดเลือดที่ไหลออกจากร่างกายจากการหดหลอดเลือดบริเวณนั้นและกระตุ้นการแข็งตัวของเลือด หลังจากนั้นบริเวณบาดแผลก็จะอักเสบซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดบวมแดงร้อน หลอดเลือดบริเวณบาดแผลขยายตัว ทำให้เกิดเป็นรอยแดงจากสิว หลังจากการอักเสบบาดแผลก็จะเกิดการสร้างคอลลาเจน เกิดเป็นชั้นผิวใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นระยะที่อาจจะเกิดแผลเป็นได้ สุดท้ายผิวก็จะค่อย ๆ ปรับโครงสร้างจนมีลักษณะคล้ายผิวเดิม ซึ่งอาจจะใช้เวลานานหลายเดือนจนถึงหลายปี ในบางครั้งการอักเสบอาจจะกระตุ้นให้เซลล์ผลิตเม็ดสีที่ชื่อว่าเมลาโนไซต์ (melanocyte) ทำงานมากผิดปกติ ทำให้ผลิตเม็ดสีเมลานิน (melanin) ออกมามากเกินไป เกิดเป็นรอยดำหลังการอักเสบ (post inflammatory hyperpigmentation, PIH) ซึ่งเป็นได้ทั้งสีดำ สีน้ำตาล สีแทน หรือสีเทา นอกจากนี้การอักเสบหรือการรบกวนผิวอื่น ๆ เช่น การแพ้ การระคายเคือง การทำเลเซอร์ ก็อาจจะทำให้เกิดรอยดำหลังการอักเสบได้เช่นกัน ผู้ที่มีผิวสีเข้มก็จะมีโอกาสเกิดรอยดำหลังการอักเสบได้มากกว่าผู้ที่มีผิวสีอ่อน


 

แม้ว่าการเกิดรอยดำรอยแดงหลังการอักเสบจะไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ก็เป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ อาจทำให้เกิดความไม่พึงพอใจ การดูแลรักษาผิวที่เหมาะสมทั้งก่อนและหลังเกิดบาดแผลมีส่วนช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ป้องกันรอยดำรอยแดงและทำให้รอยดำรอยแดงดูจางลงเร็วขึ้นได้ เช่นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัด dragon’s blood ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบของบาดแผล กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และชั้นผิวใหม่ ทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดรอยแดง และทำให้รอยแดงที่มีจางลง ในกรณีที่เป็นรอยดำหลังการอักเสบ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ vitamin B3 (niacinamide) ช่วยป้องกันการเกิดรอยดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และทำให้รอยดำแลดูจางลง หรือใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA ก็จะช่วยให้รอยดำดูจางลงไวขึ้นได้






bottom of page